• หน้าแรก
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้า Set
  • บทความ
  • เกี่ยวกับเรา
  • ดูรีวิว
0
ดูรายละเอียดสินค้า
  • หน้าแรก
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้า Set
  • บทความ
  • ดูรีวิว
  • เกี่ยวกับเรา
0

สาเหตุที่นอนไม่หลับ


เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหากเรามีปัญหา หรือความกังวลในใจเรามักจะ “นอนไม่หลับ” อาการนี้อาจมีสาเหตุมากจากระบบประสาทอัตโนมัติของคนเรา โดยแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือระบบประสาทซิมพาเทติก (ทำงานช่วงเช้า - เที่ยง)  และระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (ทำงานช่วงเย็น - ดึก)

ทั้งสองระบบนี้ทำงานสลับกัน เพื่อให้เกิดภาวะสมดุล ตามเวลาและสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากว่าคุณรู้สึกวิตกกังวลใจหรือเครียด ระบบประสาทซิมพาเทติกก็จะยังคงถูกกระตุ้น และทำงานอยู่เรื่อยๆ


แต่หากคุณรู้สึกผ่อนคลาย ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก จะถูกกระตุ้นและช่วยให้คุณนอนหลับสบายตลอดคืนได้อย่างราบรื่น ในทางกลับกัน หากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้นให้ทำงาน คุณก็จะนอนไม่ค่อยหลับนั่นเอง

ทั้งสองระบบนี้ทำงานสลับกัน เพื่อให้เกิดภาวะสมดุล ตามเวลาและสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากว่าคุณรู้สึกวิตกกังวลใจหรือเครียด ระบบประสาทซิมพาเทติกก็จะยังคงถูกกระตุ้น และทำงานอยู่เรื่อยๆ

แต่หากคุณรู้สึกผ่อนคลาย ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก จะถูกกระตุ้นและช่วยให้คุณนอนหลับสบายตลอดคืนได้อย่างราบรื่น ในทางกลับกัน หากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้นให้ทำงาน คุณก็จะนอนไม่ค่อยหลับนั่นเอง

ทั้งสองระบบนี้ทำงานสลับกัน เพื่อให้เกิดภาวะสมดุล ตามเวลาและสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากว่าคุณรู้สึกวิตกกังวลใจหรือเครียด ระบบประสาทซิมพาเทติกก็จะยังคงถูกกระตุ้น และทำงานอยู่เรื่อยๆ


แต่หากคุณรู้สึกผ่อนคลาย ระบบประสาทพาราซิมพาเทติก จะถูกกระตุ้นและช่วยให้คุณนอนหลับสบายตลอดคืนได้อย่างราบรื่น ในทางกลับกัน หากระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้นให้ทำงาน คุณก็จะนอนไม่ค่อยหลับนั่นเอง

5 สิ่งทำก่อนนอนแล้วการนอนดีขึ้นแน่


แล้วในความเป็นจริงเราจะลดความเครียดลงได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น และควรรับมือกับปัญหาการนอนไม่หลับยังไงดี? เรามี 5 วิธีที่จะช่วยคุณให้นอนหลับได้โดยไม่ต้องกังวลใจมาเสนอค่ะ

5 สิ่งทำก่อนนอน

แล้วการนอนดีขึ้นแน่


แล้วในความเป็นจริงเราจะลดความเครียดลงได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ระบบประสาทซิมพาเทติกถูกกระตุ้น และควรรับมือกับปัญหาการนอนไม่หลับยังไงดี? เรามี 5 วิธีที่จะช่วยคุณให้นอนหลับได้โดยไม่ต้องกังวลใจมาเสนอค่ะ

1. รู้ว่าตัวเองมี “นาฬิกาชีวิต” แบบไหน และปรับพฤติกรรมให้เป็นไปตามนั้น

นาฬิกาชีวิตแต่ละคนก็แตกต่างกันไป การที่รู้ว่าช่วงเวลาประมาณไหนที่คุณจะเริ่มง่วงนอนและมักจะตื่นนอนในช่วงเวลานั้น เป็นข้อได้เปรียบให้คุณได้เข้าใจช่วงเวลาที่คุณจะเหมาะกับการตื่นนอน/ ทำงาน/ คิดเรื่องสำคัญ/ รวมถึงเข้านอนได้

ใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีนาฬิกาชีวิตแบบไหน สามารถคลิกเพื่ออ่านว่าคุณควรนอนและตื่นกี่โมงจาก บทความนี้ ได้เลย

1. รู้ว่าตัวเองมี “นาฬิกาชีวิต” แบบไหน และปรับพฤติกรรมให้เป็นไปตามนั้น

นาฬิกาชีวิตแต่ละคนก็แตกต่างกันไป การที่รู้ว่าช่วงเวลาประมาณไหนที่คุณจะเริ่มง่วงนอนและมักจะตื่นนอนในช่วงเวลานั้น เป็นข้อได้เปรียบให้คุณได้เข้าใจช่วงเวลาที่คุณจะเหมาะกับการตื่นนอน/ ทำงาน/ คิดเรื่องสำคัญ/ รวมถึงเข้านอนได้

ใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีนาฬิกาชีวิตแบบไหน สามารถคลิกเพื่ออ่านว่าคุณควรนอนและตื่นกี่โมงจาก บทความนี้ ได้เลย

2. หลีกเลี่ยง “ความพยายามอย่างจริงจังที่จะนอนหลับให้ได้”

ยิ่งคิดก็ยิ่งกดดันตัวเองที่จะต้องนอนให้หลับโดยเร็วที่สุด กลายเป็นสมองวิ่งวนอยู่กับความคิดนั่นจนไม่เป็นอันนอน หากรับรู้แล้วว่าตัวเองกำลังนอนไม่หลับ อย่าพยายามนอนต่อ โดยอาจจะลุกขึ้นมาหานำอุ่นหรือนุ่มอุ่นดื่ม เปิดเพลงที่ช่วยทำให้จิตใจสงบค่อยนอนอีกครั้งก็ได้

2. หลีกเลี่ยง “ความพยายามอย่างจริงจังที่จะนอนหลับให้ได้”

ยิ่งคิดก็ยิ่งกดดันตัวเองที่จะต้องนอนให้หลับโดยเร็วที่สุด กลายเป็นสมองวิ่งวนอยู่กับความคิดนั่นจนไม่เป็นอันนอน หากรับรู้แล้วว่าตัวเองกำลังนอนไม่หลับ อย่าพยายามนอนต่อ โดยอาจจะลุกขึ้นมาหานำอุ่นหรือนุ่มอุ่นดื่ม เปิดเพลงที่ช่วยทำให้จิตใจสงบค่อยนอนอีกครั้งก็ได้

3. จด To-do-list ของวันพรุ่งนี้

จดบันทึกในโน๊ตหรือกระดาษไว้ให้เสร็จสรรพ ว่าพรุ่งนี้มีภาระหน้าที่ที่ต้องทำอะไรบ้าง จะได้ไม่ลืม และเป็นการจัดระบบความคิดและความสำคัญของงานที่ต้องทำ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาจะได้เริ่มทำงานได้ทันที แถมยังไม่เหลือความกังวลก่อนนอน ว่าจะลืมอะไรหรือไม่ / ปัญหาใดที่ยังคิดไม่ตก ก็ให้โน๊ตไว้คิดต่อในวันรุ่งขึ้น

3. จด To-do-list ของวันพรุ่งนี้

จดบันทึกในโน๊ตหรือกระดาษไว้ให้เสร็จสรรพ ว่าพรุ่งนี้มีภาระหน้าที่ที่ต้องทำอะไรบ้าง จะได้ไม่ลืม และเป็นการจัดระบบความคิดและความสำคัญของงานที่ต้องทำ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาจะได้เริ่มทำงานได้ทันที แถมยังไม่เหลือความกังวลก่อนนอน ว่าจะลืมอะไรหรือไม่ / ปัญหาใดที่ยังคิดไม่ตก ก็ให้โน๊ตไว้คิดต่อในวันรุ่งขึ้น

4. ขยับเขยื้อนตัวให้น้อยที่สุด

เมื่ออยู่บนเตียง พยายามลองไม่ขยับตัวเลยหรือขยับให้น้อยที่สุด ร่างกายจะเริ่มเคยชินกับสภาวะสงบนิ่ง ผ่อนคลาย ทำให้เคลิ้มหลับได้ง่ายขึ้น

4. ขยับเขยื้อนตัวให้น้อยที่สุด

เมื่ออยู่บนเตียง พยายามลองไม่ขยับตัวเลยหรือขยับให้น้อยที่สุด ร่างกายจะเริ่มเคยชินกับสภาวะสงบนิ่ง ผ่อนคลาย ทำให้เคลิ้มหลับได้ง่ายขึ้น

5. เปลี่ยนจากการเล่นโซเชียลมีเดีย มาทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบนิ่งแทน

เช่น อ่านหนังสือหรือ นั่งสมาธิ พูดง่ายแต่ทำยาก คุณอาจจะคิดว่าขอติดตามข่าวสารในโซเชียลแค่แปปเดียว แต่บ่อยครั้งที่การเล่นแปปๆ กลายเป็นจ้องจอเป็นชั่วโมง และเนื่องด้วยเราไม่สามารถควบคุมสื่อที่จะปรากฎขึ้นมาให้เราดูได้ เราอาจเผลอไปเสพอะไรที่ต้องดูต่อเนื่องติดพัน หรือระทึกใจเกินไป ตื่นเต้นเกินไปสำหรับก่อนจะนอนได้


เช่นนี้แล้วจิตใจเราก็จะว้าวุ่น ไม่สงบนิ่ง แม้จะเข้านอนเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็อาจจะยังไม่สามารถทำใจให้นิ่งได้ อันจะนำมาซึ่งการนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา นั่นเอง

5. เปลี่ยนจากการเล่นโซเชียลมีเดีย มาทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบนิ่งแทน

เช่น อ่านหนังสือหรือ นั่งสมาธิ พูดง่ายแต่ทำยาก คุณอาจจะคิดว่าขอติดตามข่าวสารในโซเชียลแค่แปปเดียว แต่บ่อยครั้งที่การเล่นแปปๆ กลายเป็นจ้องจอเป็นชั่วโมง และเนื่องด้วยเราไม่สามารถควบคุมสื่อที่จะปรากฎขึ้นมาให้เราดูได้ เราอาจเผลอไปเสพอะไรที่ต้องดูต่อเนื่องติดพัน หรือระทึกใจเกินไป ตื่นเต้นเกินไปสำหรับก่อนจะนอนได้

เช่นนี้แล้วจิตใจเราก็จะว้าวุ่น ไม่สงบนิ่ง แม้จะเข้านอนเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็อาจจะยังไม่สามารถทำใจให้นิ่งได้ อันจะนำมาซึ่งการนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา นั่นเอง

5. เปลี่ยนจากการเล่นโซเชียลมีเดีย มาทำกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบนิ่งแทน

เช่น อ่านหนังสือหรือ นั่งสมาธิ พูดง่ายแต่ทำยาก คุณอาจจะคิดว่าขอติดตามข่าวสารในโซเชียลแค่แปปเดียว แต่บ่อยครั้งที่การเล่นแปปๆ กลายเป็นจ้องจอเป็นชั่วโมง และเนื่องด้วยเราไม่สามารถควบคุมสื่อที่จะปรากฎขึ้นมาให้เราดูได้ เราอาจเผลอไปเสพอะไรที่ต้องดูต่อเนื่องติดพัน หรือระทึกใจเกินไป ตื่นเต้นเกินไปสำหรับก่อนจะนอนได้


เช่นนี้แล้วจิตใจเราก็จะว้าวุ่น ไม่สงบนิ่ง แม้จะเข้านอนเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ก็อาจจะยังไม่สามารถทำใจให้นิ่งได้ อันจะนำมาซึ่งการนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา นั่นเอง

เพราะการนอนหลับกับจิตใจมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ความเครียดที่ถูกสะสมเรื่อยๆ ส่งผลให้นอนหลับยากและยังเป็นสาเหตุของโรคนอนไม่หลับเรื้อรังอีกด้วย ดังนั้นให้ลองนำ 5 สิ่งที่กล่าวไปข้างต้นมาลองปรับใช้กับวงจรการนอนหลับของคุณดู เพื่อการนอนหลับที่ลึกขึ้นและตื่นนอนสดใสพร้อมรับวันใหม่ในทุกๆ วัน


คลิกด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับท็อปเปอร์ Prime

ดูรายละเอียดท็อปเปอร์ Prime

Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี

ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น

คุณมีปัญหาปวดหลังอยู่หรือเปล่า?นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa


Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมท็อปเปอร์ของเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับท็อปเปอร์ของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้


ท็อปเปอร์ Prime ช่วยยกระดับการพักผ่อนของคุณให้มีคุณภาพมากขึ้น สัมผัสนวัตกรรมการนอนสุดล้ำที่ไม่เหมือนใคร ด้วยท็อปเปอร์เส้นใยพิเศษ “Hyper Memory Foam” ช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อการนอนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายอย่างแท้จริง

Chowa โชวา 

"เราเชื่อว่าการพักผ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด"

저희는 휴식이 가장 중요하다고 믿습니다


ดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด

หมอนโคซี่

코지 베개

5.0
ช้อปสินค้า

หมอนพิงหลัง

기절 등베개

5.0
ช้อปสินค้า

หมอนบอดี้

바디 베개

4.9
ช้อปสินค้า

    ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…

    “เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร


    ลองสินค้าสลบเหมือดสุดพรีเมี่ยมของโชวาเลย! รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


    ดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด