ในยุคที่สิ่งรบกวนรอบตัวมีมากมาย จึงทำให้หลายคนหลุดโฟกัสกับสิ่งต่างๆ ที่กำลังทำอยู่ได้ง่าย และขาดสมาธิในการทำงาน แต่ถ้าคุณสามารถจดจ่อกับงานได้นานขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
มาลองทำตาม 7 เคล็ดลับเพิ่มสมาธิเวลาทำงาน ที่ช่วยให้คุณโฟกัสได้ดีขึ้นและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกันดีกว่า
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้สมองโฟกัสกับงานได้ง่ายขึ้น เช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายกว้างๆ อย่าง ‘วันนี้ต้องทำรายงานให้เสร็จ’ ซึ่งอาจทำให้หลุดโฟกัสระหว่างทำงาน ให้เปลี่ยนเป็น ‘วันนี้ต้องเขียนบทสรุปรายงาน 1 หน้า ภายใน 10 โมง’ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนและทำให้รู้ว่าต้องโฟกัสที่อะไร
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้สมองโฟกัสกับงานได้ง่ายขึ้น เช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายกว้างๆ อย่าง ‘วันนี้ต้องทำรายงานให้เสร็จ’ ซึ่งอาจทำให้หลุดโฟกัสระหว่างทำงาน ให้เปลี่ยนเป็น ‘วันนี้ต้องเขียนบทสรุปรายงาน 1 หน้า ภายใน 10 โมง’ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนและทำให้รู้ว่าต้องโฟกัสที่อะไร
เทคนิค Pomodoro เป็นวิธีจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพโดยแบ่งงานเป็นรอบๆ เช่น ทำงาน 25 นาที พักสั้น 5 นาที หลังจากทำงานครบ 4 รอบ (100 นาที) จะพักยาว 15-30 นาที วิธีนี้ช่วยให้สมองไม่ล้าเกินไปและยังเพิ่มสมาธิเวลาทำงานได้ดีขึ้น
เทคนิค Pomodoro เป็นวิธีจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพโดยแบ่งงานเป็นรอบๆ เช่น ทำงาน 25 นาที พักสั้น 5 นาที หลังจากทำงานครบ 4 รอบ (100 นาที) จะพักยาว 15-30 นาที วิธีนี้ช่วยให้สมองไม่ล้าเกินไปและยังเพิ่มสมาธิเวลาทำงานได้ดีขึ้น
การหายใจลึกๆ สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้ดี เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเสียสมาธิ ให้หยุดและทำการหายใจลึกๆ ช้าๆ สัก 5-10 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลายและกลับมามีสมาธิในการทำงาน
การหายใจลึกๆ สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มสมาธิได้ดี เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเสียสมาธิ ให้หยุดและทำการหายใจลึกๆ ช้าๆ สัก 5-10 ครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้สมองได้ผ่อนคลายและกลับมามีสมาธิในการทำงาน
การจัดกลุ่มงาน (Task Batching) คือการทำงานประเภทเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น
ตอบอีเมลช่วงเช้า
ประชุมช่วงบ่าย
ทำงานคิดสร้างสรรค์ช่วงค่ำ
วิธีนี้ช่วยลดการสลับโฟกัสไปมาระหว่างงานและช่วยเพิ่มสมาธิเวลาทำงานได้มากขึ้น
การจัดกลุ่มงาน (Task Batching) คือการทำงานประเภทเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน เช่น
ตอบอีเมลช่วงเช้า
ประชุมช่วงบ่าย
ทำงานคิดสร้างสรรค์ช่วงค่ำ
วิธีนี้ช่วยลดการสลับโฟกัสไปมาระหว่างงานและช่วยเพิ่มสมาธิเวลาทำงานได้มากขึ้น
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งรบกวนมากจะทำให้สมาธิลดลง ดังนั้นควรจัดพื้นที่ทำงานให้สะอาดและเป็นระเบียบ เลือกสถานที่ที่เงียบสงบ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ที่อาจทำให้เสียสมาธิ
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งรบกวนมากจะทำให้สมาธิลดลง ดังนั้นควรจัดพื้นที่ทำงานให้สะอาดและเป็นระเบียบ เลือกสถานที่ที่เงียบสงบ และหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ที่อาจทำให้เสียสมาธิ
ดนตรีสามารถช่วยกระตุ้นสมองและช่วยให้จดจ่อกับงานได้ดีขึ้น เพลงที่เหมาะกับการทำงานควรเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือเพลงที่มีจังหวะคงที่ เช่น
เพลงคลาสสิก – ช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียด
เสียงธรรมชาติ – เช่น เสียงฝนตกหรือเสียงคลื่นทะเล เพิ่มความผ่อนคลาย
Brown Noise / White Noise - เป็นเสียงพื้นหลังที่นุ่มนวล คล้ายเสียงลมเบาๆ หรือเสียงแอร์ ช่วยกลบเสียงรอบข้าง เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้สมาธิสูงหรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน
Lo-fi / Chill Beats – เป็นเพลงจังหวะช้า สบายๆ ฟังง่าย เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
ดนตรีสามารถช่วยกระตุ้นสมองและช่วยให้จดจ่อกับงานได้ดีขึ้น เพลงที่เหมาะกับการทำงานควรเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือเพลงที่มีจังหวะคงที่ เช่น
เพลงคลาสสิก – ช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียด
เสียงธรรมชาติ – เช่น เสียงฝนตกหรือเสียงคลื่นทะเล เพิ่มความผ่อนคลาย
Brown Noise / White Noise - เป็นเสียงพื้นหลังที่นุ่มนวล คล้ายเสียงลมเบาๆ หรือเสียงแอร์ ช่วยกลบเสียงรอบข้าง เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้สมาธิสูงหรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน
Lo-fi / Chill Beats – เป็นเพลงจังหวะช้า สบายๆ ฟังง่าย เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
ดนตรีสามารถช่วยกระตุ้นสมองและช่วยให้จดจ่อกับงานได้ดีขึ้น เพลงที่เหมาะกับการทำงานควรเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือเพลงที่มีจังหวะคงที่ เช่น
เพลงคลาสสิก – ช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียด
เสียงธรรมชาติ – เช่น เสียงฝนตกหรือเสียงคลื่นทะเล เพิ่มความผ่อนคลาย
Brown Noise / White Noise - เป็นเสียงพื้นหลังที่นุ่มนวล คล้ายเสียงลมเบาๆ หรือเสียงแอร์ ช่วยกลบเสียงรอบข้าง เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้สมาธิสูงหรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน
Lo-fi / Chill Beats – เป็นเพลงจังหวะช้า สบายๆ ฟังง่าย เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
สมาธิที่ดีเริ่มต้นจากการนอนหลับที่เพียงพอ หากคุณพักผ่อนน้อย ร่างกายจะล้า และโฟกัสงานได้น้อยลง ควรนอนให้ได้ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน และหาเวลาพักสายตาระหว่างวัน
สมาธิที่ดีเริ่มต้นจากการนอนหลับที่เพียงพอ หากคุณพักผ่อนน้อย ร่างกายจะล้า และโฟกัสงานได้น้อยลง ควรนอนให้ได้ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน และหาเวลาพักสายตาระหว่างวัน
การทำตามเคล็ดลับข้างต้นจะช่วยให้คุณสามารถ เพิ่มสมาธิเวลาทำงานและประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การนั่งทำงานนานๆ อาจทำให้ปวดหลังและเสียสมาธิ เซ็ตหมอนอ่านหนังสือ SitWell ของ Chowa ออกแบบมาให้รองรับแผ่นหลังและต้นคอ ลดอาการปวดเมื่อย ไม่ว่าจะนั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งปั่นงานก็สบาย
คลิกด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซ็ตหมอนอ่านหนังสือ SitWell
Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี
ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการนอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมเครื่องนอนเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับเครื่องนอนของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้
เซ็ตหมอนอ่านหนังสือ SitWell ของเรา ประกอบด้วยหมอนอ่านหนังสือ + หมอนพิงหลัง ใช้งานได้หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ผลิตจากไฮเปอร์เมมโมรี่โฟม 100% มีช่องเก็บของอเนกประสงค์รอบหมอน พร้อมปลอกหมอน SnowMax ที่ให้สัมผัสเย็นสบายทุกครั้งที่พิง และผ่านการรับรองมาตรฐาน CertiPUR-US เพื่อความมั่นใจในคุณภาพ
“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร