• หน้าแรก
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้า Set
  • บทความ
  • เกี่ยวกับเรา
  • ดูรีวิว
ดูรายละเอียดสินค้า
0
  • หน้าแรก
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้า Set
  • บทความ
  • ดูรีวิว
  • เกี่ยวกับเรา
ดูรายละเอียดสินค้า
ดูรายละเอียดสินค้า
  • 0

ฝึกสมองและจิตใจให้แจ่มใส

ในช่วงที่ทุกคนเครียดๆ มีแต่ข่าวคราวของโรคระบาด ภัยธรรมชาติ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย อาจทำให้จิตใจห่อเหี่ยวได้ง่ายๆ สมองเกิดความเครียดหลายเรื่องจนดูเหมือนจะตั้งรับไม่ไหว เราจึงอยากจะชวนทุกคนมารีบูตสมองให้สตรองขึ้น พร้อมกับรีเฟรชจิตใจให้สดใสมากยิ่งขึ้น ด้วย 6 วิธีฝึกสมองและจิตใจให้สตรองขึ้น 

1. ออกกำลังกาย 

จากการวิจัยโดย Dr. Wendy A. Suzuki ศาสตราจารย์ทางด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (neuroscience) แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ทางสมอง มหาวิทยาลัย New York University พบว่าการออกกำลังกายสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะสมองเสื่อมได้ถึง 30% เพียงแค่คุณเดินหรือออกกำลังกายเบาๆ ก็ช่วยสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อระบบสมองและระบบความทรงจำ นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพยังส่งผลถึงสภาวะทางอารมณ์ ลดทั้งการเป็นโรคบาดเจ็บทางสมอง โรคอัลไซเมอร์ และภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย 

1. ออกกำลังกาย 

จากการวิจัยโดย Dr. Wendy A. Suzuki ศาสตราจารย์ทางด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (neuroscience) แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ทางสมอง มหาวิทยาลัย New York University พบว่าการออกกำลังกายสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะสมองเสื่อมได้ถึง 30%

เพียงแค่คุณเดินหรือออกกำลังกายเบาๆ ก็ช่วยสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อระบบสมองและระบบความทรงจำ นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพยังส่งผลถึงสภาวะทางอารมณ์ ลดทั้งการเป็นโรคบาดเจ็บทางสมอง โรคอัลไซเมอร์ และภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย 

1. ออกกำลังกาย 

จากการวิจัยโดย Dr. Wendy A. Suzuki ศาสตราจารย์ทางด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (neuroscience) แห่งศูนย์วิทยาศาสตร์ทางสมอง มหาวิทยาลัย New York University พบว่าการออกกำลังกายสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะสมองเสื่อมได้ถึง 30%


เพียงแค่คุณเดินหรือออกกำลังกายเบาๆ ก็ช่วยสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อระบบสมองและระบบความทรงจำ นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพยังส่งผลถึงสภาวะทางอารมณ์ ลดทั้งการเป็นโรคบาดเจ็บทางสมอง โรคอัลไซเมอร์ และภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย 

2. การทำสมาธิเบื้องต้น

รศ. ดร. ภญ. ศรีจันทร์ พรจิราศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บอกเคล็ดลับวิธีการแก้ความเครียดด้วยการลดความตึงเครียดทางด้านจิตใจ อย่างการสร้างอารมณ์และคิดในเชิงบวก รวมถึงการทำสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นนั่งสมาธิหรือการกำหนดลมหายใจ ก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้ เพียงแค่เราจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก ก็สามารถขจัดความคิดฟุ้งซ่านให้ออกไป ช่วยให้ความเครียด ความวิตกกังวลหายไป

2. การทำสมาธิเบื้องต้น

รศ. ดร. ภญ. ศรีจันทร์ พรจิราศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บอกเคล็ดลับวิธีการแก้ความเครียดด้วยการลดความตึงเครียดทางด้านจิตใจ อย่างการสร้างอารมณ์และคิดในเชิงบวก รวมถึงการทำสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นนั่งสมาธิหรือการกำหนดลมหายใจ ก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้ เพียงแค่เราจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก ก็สามารถขจัดความคิดฟุ้งซ่านให้ออกไป ช่วยให้ความเครียด ความวิตกกังวลหายไป

2. การทำสมาธิเบื้องต้น

รศ. ดร. ภญ. ศรีจันทร์ พรจิราศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บอกเคล็ดลับวิธีการแก้ความเครียดด้วยการลดความตึงเครียดทางด้านจิตใจ อย่างการสร้างอารมณ์และคิดในเชิงบวก รวมถึงการทำสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นนั่งสมาธิหรือการกำหนดลมหายใจ ก็ช่วยบรรเทาความเครียดได้ เพียงแค่เราจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก ก็สามารถขจัดความคิดฟุ้งซ่านให้ออกไป ช่วยให้ความเครียด ความวิตกกังวลหายไป

3. การออกกำลังกายสมอง 

การออกกำลังสมองหรือนิวโรบิค (neurobic exercise) โดย Dr. Lawrence Katz นักประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Duke University Medical Center ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบการฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของสมองโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทั้งการมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และสัมผัส โดยทำได้ง่ายนิดเดียว แค่ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดแปรงฟัน ใช้ตะเกียบแทนช้อนส้อม หลับตาตอนสระผม ดูปฏิทินกลับหัว นั่นคือการที่ทำในสิ่งที่สมองตนเองไม่ถนัดเพื่อให้สมองได้เกิดการเรียนรู้ใหม่นั่นเอง

3. การออกกำลังกายสมอง 

การออกกำลังสมองหรือนิวโรบิค (neurobic exercise) โดย Dr. Lawrence Katz นักประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Duke University Medical Center ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบการฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของสมองโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5

ทั้งการมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และสัมผัส โดยทำได้ง่ายนิดเดียว แค่ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดแปรงฟัน ใช้ตะเกียบแทนช้อนส้อม หลับตาตอนสระผม ดูปฏิทินกลับหัว นั่นคือการที่ทำในสิ่งที่สมองตนเองไม่ถนัดเพื่อให้สมองได้เกิดการเรียนรู้ใหม่นั่นเอง

3. การออกกำลังกายสมอง 

การออกกำลังสมองหรือนิวโรบิค (neurobic exercise) โดย Dr. Lawrence Katz นักประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Duke University Medical Center ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบการฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของสมองโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5


ทั้งการมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส และสัมผัส โดยทำได้ง่ายนิดเดียว แค่ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดแปรงฟัน ใช้ตะเกียบแทนช้อนส้อม หลับตาตอนสระผม ดูปฏิทินกลับหัว นั่นคือการที่ทำในสิ่งที่สมองตนเองไม่ถนัดเพื่อให้สมองได้เกิดการเรียนรู้ใหม่นั่นเอง

4. โภชนาการสำคัญมาก 

หลายคนมักเคยได้ยินว่าสมองดีมักเริ่มต้นที่อาหาร คำนั้นไม่ไกลจากความเป็นจริงเท่าไหร่นัก โดยสารอาหารที่สำคัญต่อการบำรุงระบบประสาทและสมอง ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี และวิตามินอี สารอาหารดังกล่าวจะช่วยทั้งบำรุงและสนับสนุนการทำงานของสมอง รวมถึงช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้อีกด้วย 

4. โภชนาการสำคัญมาก 

หลายคนมักเคยได้ยินว่าสมองดีมักเริ่มต้นที่อาหาร โดยสารอาหารที่สำคัญต่อการบำรุงระบบประสาทและสมอง ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี และวิตามินอี สารอาหารดังกล่าวจะช่วยทั้งบำรุงและสนับสนุนการทำงานของสมอง รวมถึงช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้อีกด้วย 

4. โภชนาการสำคัญมาก 

หลายคนมักเคยได้ยินว่าสมองดีมักเริ่มต้นที่อาหาร คำนั้นไม่ไกลจากความเป็นจริงเท่าไหร่นัก โดยสารอาหารที่สำคัญต่อการบำรุงระบบประสาทและสมอง ได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี และวิตามินอี สารอาหารดังกล่าวจะช่วยทั้งบำรุงและสนับสนุนการทำงานของสมอง รวมถึงช่วยชะลอความเสื่อมของสมองได้อีกด้วย 

5. เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม 

มีงานวิจัยมากมายค้นพบว่าการที่จะส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ต้องดูแลให้ครบทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และกิจกรรมทางสังคม โดยการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ท่องเที่ยว ทำจิตอาสาหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่ทำให้เราได้อยู่ร่วมกับคนอื่น

5. เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม 

มีงานวิจัยมากมายค้นพบว่าการที่จะส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ต้องดูแลให้ครบทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และกิจกรรมทางสังคม โดยการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ท่องเที่ยว ทำจิตอาสาหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่ทำให้เราได้อยู่ร่วมกับคนอื่น

5. เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม 

มีงานวิจัยมากมายค้นพบว่าการที่จะส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี ต้องดูแลให้ครบทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และกิจกรรมทางสังคม โดยการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ท่องเที่ยว ทำจิตอาสาหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่ทำให้เราได้อยู่ร่วมกับคนอื่น

6. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 

นอนดึก นอนไม่เพียงพอเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สมองล้าและสมองเสื่อม โดยอาจมีสัญญาณเตือน เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง สายตาอ่อนเพลีย และอื่นๆ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณวันละ 7-8 ชั่วโมง รวมถึงเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่ม จะช่วยเสริมความทรงจำ ลดความอ่อนล้าของสมอง และช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์ ทำให้เรามีสมองและจิตใจที่แข็งแรงขึ้น 

6. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 

นอนดึก นอนไม่เพียงพอเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สมองล้าและสมองเสื่อม โดยอาจมีสัญญาณเตือน เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง สายตาอ่อนเพลีย และอื่นๆ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณวันละ 7-8 ชั่วโมง รวมถึงเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่ม จะช่วยเสริมความทรงจำ ลดความอ่อนล้าของสมอง และช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์ ทำให้เรามีสมองและจิตใจที่แข็งแรงขึ้น 

6. นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ 

นอนดึก นอนไม่เพียงพอเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สมองล้าและสมองเสื่อม โดยอาจมีสัญญาณเตือน เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง สายตาอ่อนเพลีย และอื่นๆ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณวันละ 7-8 ชั่วโมง รวมถึงเข้านอนไม่เกินสี่ทุ่ม จะช่วยเสริมความทรงจำ ลดความอ่อนล้าของสมอง และช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์ ทำให้เรามีสมองและจิตใจที่แข็งแรงขึ้น 

6 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจแข็งแรงขึ้น ลองนำไปปรับใช้กับตัวเองเพื่อให้ร่างกายเราสุขภาพดีขึ้น และที่สำคัญอย่าลืมนอนหลับให้เพียงพอ เราขอเสนอตัวช่วยดีๆ ในการนอนหลับ “หมอนโคซี่” จากแบรนด์ Chowa ที่จะทำให้การนอนของทุกคนสบายยิ่งขึ้น สมองไม่ล้า ไร้ความกังวลและห่างไกลจากความเครียด


คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอนโคซี่

ดูรายละเอียดหมอนโคซี่

Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี

ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น

คุณมีปัญหาเรื่องการนอนอยู่หรือเปล่า?นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa


Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการนอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมหมอนเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับหมอนโคซี่ของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้


หมอนโคซี่ใบนี้เป็นหมอนที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ พิเศษที่สามารถปรับความสูงต่ำของหมอนได้ตามต้องการ วัสดุด้านในประกอบไปด้วยไฮเปอร์เมมโมรี่โฟมและไมโครไฟเบอร์ ช่วยรองรับต้นคอและศีรษะอย่างพอดี ให้สัมผัสเหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆที่นุ่มฟู

Chowa โชวา 
"เราเชื่อว่าการพักผ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด"

저희는 휴식이 가장 중요하다고 믿습니다

ดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด

หมอนโคซี่

코지 베개

4.9
ช้อปสินค้า

หมอนพิงหลัง

기절 등베개

4.9
ช้อปสินค้า

หมอนบอดี้

바디 베개

4.9
ช้อปสินค้า

ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…

“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร


ลองสินค้าสลบเหมือดสุดพรีเมี่ยมของโชวาเลย! รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


ดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด