1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายวันละ 30 นาทีเป็นประจำ จะช่วยให้คุณนอนหลับง่ายขึ้น อีกทั้งควรออกกำลังกายก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายตื่นตัวจนนอนไม่หลับนั่นเอง

2. ไม่ดื่ม ชา กาแฟ ก่อนนอน

หลายคนทราบดีว่าคาเฟอีนจะทำให้คุณตื่นตัวและนอนหลับได้ยาก ดังนั้นหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟในช่วงเวลาเที่ยงหรือหัวค่ำ เพราะจะทำให้คุณไม่ง่วง ต่อให้ข่มตาเท่าไหร่ก็ไม่หลับแน่นอน เปลี่ยนเป็นดื่มนมร้อนน่าจะดีกว่า

3. ลดเวลานอนกลางวัน และไม่งีบหลับหลัง 3 โมงเย็น

หลายคนเข้านอนเป็นเวลา แต่มาตกม้าตายเพราะดันชอบงีบหลับช่วงกลางวันถึงช่วงเย็น ทำให้พอถึงเวลาเข้านอนก็นอนไม่หลับ และก็เผลอกดมือถือหรือดูซีรีย์จนเข้านอนดึก ทำให้ตารางชีวิตผิดเพี้ยนไปหมด ดังนั้น หากรู้สึกง่วงช่วงกลางวัน ควรงีบ 10-15 นาทีพอ จะทำให้ร่างกายสดชื่น แต่หากงีบนานเป็นชั่วโมง จะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและนอนไม่หลับในตอนกลางคืนได้

4. สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

เคยสงสัยไหมว่า ที่เรานอนไม่ค่อยหลับเป็นเพราะบรรยากาศในห้องหรือเปล่า เราลองมาสร้างบรรยากาศให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยแต่งห้องให้มีความมืดมากขึ้น เลือกใช้เตียงและหมอนที่มีความสบาย ก่อนจะปิดท้ายช่วงเวลานอนด้วยการจุดเทียนหอมกลิ่นที่ชอบ จะช่วยทำให้คุณรู้สึกง่วงและนอนหลับได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิม

5. นอนไม่หลับอย่าฝืน ง่วงแล้วค่อยนอน

เชื่อว่าหลายคนเป็นบ่อย พอเข้านอนแล้วนอนไม่หลับ ก็จะฝืนข่มตาไปเรื่อยๆ บังคับให้ตัวเองนอนให้ได้ แต่พอดูนาฬิกาอีกทีผ่านไป 2-3 ชั่วโมง ตัวเรายังนอนไม่หลับ ฉะนั้น หากคุณนอนไปแล้ว 20-30 นาที แต่นอนไม่หลับ ให้ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือฟัง ASMR น่าจะช่วยให้เคลิ้มหลับไปในที่สุด

6. ไม่เล่นมือถือก่อนนอน

รู้ว่ายากแต่ต้องทำให้ได้! หลายคนติดนิสัยเล่นมือถือก่อนเข้านอน เพราะชอบเล่นจนเผลอหลับไป แต่ความจริง แสงสีฟ้าจากจอโทรศัพท์จะทำให้คุณนอนหลับยาก หลับๆ ตื่นๆ ในกลางดึก ทางที่ดีควรงดเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน 1-2 ชั่วโมง เพื่อปรับสมดุลร่างกายให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น