กินแล้วนอนไม่เป็นงู แต่เป็นกรดไหลย้อน
ประโยคบอกเล่าของคนโบราณที่ว่า “กินแล้วนอน ระวังจะกลายเป็นงู” ผู้ใหญ่เพียงใช้เป็นข้ออ้างที่จะให้เด็กมีระเบียบในการกินเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้ว การกินแล้วนอนไม่เป็นงูหรอก แต่จะเป็น “กรดไหลย้อน” ต่างหาก
กรดไหลย้อนเป็นโรคใกล้ตัวที่ใครๆ ก็เป็นได้ สามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะวัยผู้ใหญ่หรือวัยเรียน ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง วันนี้ทาง Chowa ได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัย พร้อมคำตอบที่จะไขข้อกระจ่างเกี่ยวกับกรดไหลย้อน มาให้ได้อ่านกันค่ะ
กรดไหลย้อนเกิดจากอะไรกันแน่?
คำตอบคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นกรดไหลย้อน มักจะมาจากความผิดปกติของร่างกาย และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จึงทำให้เป็นกรดไหลย้อนขึ้นได้ ดังนี้
สาเหตุจากความผิดปกติของร่างกาย อย่างความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานกว่าปกติ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมของผู้ป่วย หรือเกิดการเลื่อนของกระเพาะอาหารเข้าไปในหลอดอาหาร
กรดไหลย้อนเกิดจากอะไรกันแน่?
คำตอบคือ สาเหตุที่ทำให้เป็นกรดไหลย้อน มักจะมาจากความผิดปกติของร่างกาย และพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จึงทำให้เป็นกรดไหลย้อนขึ้นได้ ดังนี้
สาเหตุจากความผิดปกติของร่างกาย อย่างความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหารหรือหลอดอาหาร ทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานกว่าปกติ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือมีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมของผู้ป่วย หรือเกิดการเลื่อนของกระเพาะอาหารเข้าไปในหลอดอาหาร
สาเหตุจากพฤติกรรม กรดไหลย้อนมักเกิดจากพฤติกรรมสุดคลาสสิก อย่าง ‘การกินแล้วนอน’ ที่ในสมัยก่อนเราคงจะได้ยินผ่านหูมาบ้าง เวลาผู้ใหญ่ชอบมาบอกว่า ‘กินแล้วนอน ระวังจะกลายเป็นงู’ อาจเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันกรดไหลย้อนอีกแบบก็ได้
สาเหตุจากพฤติกรรม กรดไหลย้อนมักเกิดจากพฤติกรรมสุดคลาสสิก อย่าง ‘การกินแล้วนอน’ ที่ในสมัยก่อนเราคงจะได้ยินผ่านหูมาบ้าง เวลาผู้ใหญ่ชอบมาบอกว่า ‘กินแล้วนอน ระวังจะกลายเป็นงู’ อาจเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันกรดไหลย้อนอีกแบบก็ได้
สาเหตุจากพฤติกรรม กรดไหลย้อนมักเกิดจากพฤติกรรมสุดคลาสสิก อย่าง ‘การกินแล้วนอน’ ที่ในสมัยก่อนเราคงจะได้ยินผ่านหูมาบ้าง เวลาผู้ใหญ่ชอบมาบอกว่า ‘กินแล้วนอน ระวังจะกลายเป็นงู’ อาจเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันกรดไหลย้อนอีกแบบก็ได้
กรดไหลย้อนทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยหรือเปล่า?
คำตอบก็คือ ‘กรดไหลย้อน อาจไม่ได้ทำให้เราถึงขั้นเสียชีวิต’ แต่ การเป็นกรดไหลย้อนแล้วไม่รักษา สามารถเพิ่มเปอร์เซ็นการเสียชีวิตของเราก็ได้ เพราะหากปล่อยให้ตนเองมีอาการกรดไหลย้อนนานๆ แล้วไม่รีบรักษา จะทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนเรื้อรังได้ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และถ้าเราไม่ได้รักษามันอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ซึ่งอาจยากต่อการรักษา
กรดไหลย้อนทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยหรือเปล่า?
คำตอบก็คือ ‘กรดไหลย้อน อาจไม่ได้ทำให้เราถึงขั้นเสียชีวิต’ แต่ การเป็นกรดไหลย้อนแล้วไม่รักษา สามารถเพิ่มเปอร์เซ็นการเสียชีวิตของเราก็ได้ เพราะหากปล่อยให้ตนเองมีอาการกรดไหลย้อนนานๆ แล้วไม่รีบรักษา จะทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนเรื้อรังได้ สิ่งนี้อาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และถ้าเราไม่ได้รักษามันอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดการอักเสบและติดเชื้อ ซึ่งอาจยากต่อการรักษา
กรดไหลย้อน กับ โรคกระเพาะ ต่างกันยังไง?
คำตอบก็คือ ‘โรคกระเพาะ’ จะไม่มีอาการแสบร้อนหน้าอกและคอ แต่ผู้ป่วยอาจจะมีอาการเรอบ่อย และมีน้ำขย้อนขึ้นมาหลังจากกินอาหารเข้าไปจนอิ่ม จึงทำให้มีอาการคล้ายกับ ‘กรดไหลย้อน’ จนอาจทำให้เกิดความลำบากในการวินิจฉัยได้
กรดไหลย้อน กับ โรคกระเพาะ ต่างกันยังไง?
คำตอบก็คือ ‘โรคกระเพาะ’ จะไม่มีอาการแสบร้อนหน้าอกและคอ แต่ผู้ป่วยอาจจะมีอาการเรอบ่อย และมีน้ำขย้อนขึ้นมาหลังจากกินอาหารเข้าไปจนอิ่ม จึงทำให้มีอาการคล้ายกับ ‘กรดไหลย้อน’ จนอาจทำให้เกิดความลำบากในการวินิจฉัยได้
กรดไหลย้อน กับ โรคกระเพาะ ต่างกันยังไง?
คำตอบก็คือ ‘โรคกระเพาะ’ จะไม่มีอาการแสบร้อนหน้าอกและคอ แต่ผู้ป่วยอาจจะมีอาการเรอบ่อย และมีน้ำขย้อนขึ้นมาหลังจากกินอาหารเข้าไปจนอิ่ม จึงทำให้มีอาการคล้ายกับ ‘กรดไหลย้อน’ จนอาจทำให้เกิดความลำบากในการวินิจฉัยได้
ทำยังไงถ้าเป็น หรือกำลังเสี่ยงจะเป็นกรดไหลย้อน?
คำตอบก็คือ การปรับพฤติกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน อย่างการไม่นอนทันทีหลังกินอิ่ม กินอาหารที่มีประโยชน์ และพยายามควบคุมน้ำหนัก ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น ก็อาจจะใช้ตัวช่วยต่างๆ โดยอาจจำเป็นต้องใช้ยาในการรักษา เช่น ยาเคลือบกระเพาะอาหาร ยาลดการหลั่งกรด ซึ่งการใช้ยาทั้งหมดควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ แต่ทั้งนี้เมื่อหยุดกินยา อาจทำให้อาการกลับมาใหม่ได้
ทำยังไงถ้าเป็น หรือกำลังเสี่ยงจะเป็นกรดไหลย้อน?
คำตอบก็คือ การปรับพฤติกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน อย่างการไม่นอนทันทีหลังกินอิ่ม กินอาหารที่มีประโยชน์ และพยายามควบคุมน้ำหนัก ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น ก็อาจจะใช้ตัวช่วยต่างๆ โดยอาจจำเป็นต้องใช้ยาในการรักษา เช่น ยาเคลือบกระเพาะอาหาร ยาลดการหลั่งกรด ซึ่งการใช้ยาทั้งหมดควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ แต่ทั้งนี้เมื่อหยุดกินยา อาจทำให้อาการกลับมาใหม่ได้
อีกหนึ่งทางเลือกที่อยากแนะนำ คือการใช้ หมอนกันกรดไหลย้อน สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องกลัวว่ากรดไหลย้อนจะย้อนกลับมา ทาง Chowa ได้ออกแบบหมอนชิ้นนี้มาเพื่อป้องกันกรดไหลย้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ปรับระดับองศาเอนได้ตามสะดวกไม่ว่าจะนั่งหรือนอน ด้านในผลิตจากวัสดุไฮเปอร์เมมโมรี่โฟม ทำให้นุ่ม สบาย สามารถรองรับสรีระแต่ละส่วนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอนกันกรดไหลย้อน
Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี
ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
คุณมีปัญหาเรื่องการนอนอยู่หรือเปล่า？นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa
Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการนอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมหมอนเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับหมอนกันกรดไหลย้อนของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้
หมอนกันกรดไหลย้อนเป็นหมอนที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ เซตหมอนทั้งหมด 4 ชิ้น พิเศษที่สามารถปรับระดับองศาเอนนอนได้ ปรับใช้งานได้ถึง 15 รูปแบบ ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนให้ดีขึ้น ทำให้การนั่งและการนอนถูกตามหลักสรีรศาสตร์
ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…
“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร
