1. อย่ากังวลมากเกินไป

เชื่อว่าพ่อแม่มือใหม่ แค่ลูกขยับตัวหรือแสดงปฏิกิริยาอะไรก็จะเกิดความรู้สึกตื่นเต้น แต่หากคุณตื่นตูมมากเกินไปกับสิ่งที่ลูกเป็น เช่น สำรอกนม ร้องไห้บ่อยๆ หรือตัวร้อนโดยไม่ทราบสาเหตุ ความกังวลของคุณจะส่งผลให้ลูกน้อยเกิดความกังวลตาม ซึ่งอาการเหล่านี้จะส่งผลต่อเด็กน้อยอาจจะมีการตอบสนองที่เป็นไปตามลักษณะของพ่อแม่ได้ ดังนั้นหากพ่อแม่เลี้ยงดูลูกตามปกติให้นมลูกในปริมาณที่เหมาะสม อาการเหล่านี้ก็ไม่น่าเป็นห่วงอย่างที่คิด

2. คิดว่าการร้องไห้เป็นเรื่องใหญ่

แค่เห็นลูกร้องไห้คนเป็นแม่ก็รู้สึกจะขาดใจตาม เพราะกลัวลูกจะเจ็บหรือมีอาการผิดปกติอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา แต่ความจริงแล้วเด็กทารกกับการร้องไห้ถือเป็นของคู่กัน บางครั้งเด็กอาจร้องเพราะไม่ได้ดั่งใจหรือขาดความใส่ใจจากแม่ ดังนั้นคุณต้องคอยดูแลและมอบความรักให้ดี แต่หากลูกของคุณร้องต่อเนื่องไม่หยุดบวกกับมีอาการตัวร้อน นั่นแปลว่าลูกของคุณกำลังป่วย ต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน

3. หมั่นเช็คอุณหภูมิของลูกน้อย

เมื่อคุณรู้สึกไม่สบายร่างกายจะเริ่มตัวร้อนและไม่สบายตัว เด็กทารกก็เช่นกัน เมื่อลูกน้อยมีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 37 องศาเซลเซียส ตัวจะเริ่มร้อนและจะร้องไห้ไม่หยุด คุณต้องหมั่นสังเกตอาการและตรวจเช็กอุณหภูมิของลูกให้ดี อย่าเข้าใจผิดว่าลูกตัวอุ่นเพราะห่มผ้าหรือเสื้อผ้าที่ใส่ ตัวเลขบนเครื่องวัดอุณหภูมิจะบอกอาการได้ หากเกิน 37 องศาก็เตรียมตัวพาไปพบกุมารแพทย์ได้เลย

4. จัดท่านั่งและท่านอนให้เหมาะสม

ข้อนี้เป็นปัญหาที่พ่อแม่มือใหม่ส่วนใหญ่เจอคือท่าทางในการดูแลลูก เพราะบางครอบครัว คนเป็นแม่จะอุ้มลูกน้อยตลอดเวลา ไม่ว่าจะยืนหรือนั่ง ส่งผลให้เกิดอาการปวดหลัง อีกทั้งการอุ้มลูกแล้วนั่งโดยไม่มีอะไรพิงหลัง ก็เสี่ยงทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ จนทำให้พ่อแม่หลายคนเกิดความเหนื่อยใจ ดังนั้นลองหาหมอนพิงหลังคุณภาพดีสักใบมารองหลังในระหว่างดูแลลูกน้อย จะช่วยให้คุณผ่อนคลายและสบายตัวมากยิ่งขึ้นได้

5. มอบความรักอย่างเต็มที่

เด็กน้อยเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 เริ่มจดจำสิ่งรอบข้างได้แล้ว ทำให้พ่อแม่ต้องคอยมอบความรัก และพูดถึงสิ่งดีๆ ให้ลูกน้อยฟัง ไม่ควรทะเลาะหรือมีปากเสียงให้ลูกได้ยิน เพราะจะกลายเป็นปัญหาของเด็กในอนาคตได้ ดังนั้นจึงควรมอบความรัก ความอบอุ่น และใส่ใจลูกอย่างเต็มที่ รวมถึงดูแลคนรอบข้าง ทั้งคุณสามีหรือคุณภรรยาด้วย