1. ทำความสะอาดห้องของคุณ 

หากอาการแพ้ของคุณเกิดจากสารระคายเคืองต่างๆ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น สิ่งสกปรก การใช้แผ่นกรองฝุ่นละอองประสิทธิภาพสูง (แผ่นกรอง HEPA) อาจช่วยคุณได้ นอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อในอากาศแล้ว แผ่นกรองฝุ่นยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ด้วย นอกจากนี้ เวลานอน คุณควรปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท เพื่อช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ลอยเข้ามาในห้องนอน

2. อาบน้ำตอนกลางคืน 

หลังจากวันที่ยาวนาน ร่างกายและผมของคุณอาจเต็มไปด้วย ฝุ่นละออง ควัน และสิ่งสกปรก โดยที่คุณไม่รู้ตัว สารก่อภูมิแพ้ที่ติดมาตามตัวนี้เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ในการอาบน้ำก่อนนอน คุณควรชำระล้างสิ่งสกปรกให้สะอาดก่อนขึ้นเตียง เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดของผ้าปูที่นอน หมอน และเตียงของคุณไปด้วย

3. ให้พื้นที่สัตว์เลี้ยงของคุณบ้าง

หากคุณเป็นคนที่รักสัตว์เลี้ยง นี่อาจจะทำใจได้ยากเสียหน่อยที่จะไม่ให้พวกเขาขึ้นมานอนบนเตียงกับเรา แต่ความจริงคือเราก็ต้องยอมรับสัตว์เลี้ยงนั้นมีขนยาวและวิ่งเล่นทั่วบ้านมาทั้งวัน อาจนำเศษฝุ่น ผงหรือสิ่งสกปรกติดตามขนเหล่านั้นมา เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าอะไรอยู่ในขนอันแสนน่ารักเหล่านั้นบ้าง และเมื่อคุณปล่อยให้สัตว์เลี้ยงนอนบนเตียง อะไรที่เป็นของมันก็จะกลายเป็นของคุณ… รวมถึงสารก่อภูมิแพ้จากพวกมันด้วย

4. ปิดเครื่องทำความชื้น

คนส่วนใหญ่เชื่อว่าตัวกระตุ้นให้เกิดการแพ้คืออากาศแห้ง เพราะอากาศแห้งทำให้น้ำตาไหลและคันคอ ทำให้หลายๆ คนซื้อเครื่องทำความชื้นมาใช้ในห้องนอน แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด การที่จมูกของคุณสูดหายใจอากาศชื้นเป็นเวลานาน อาจสร้างแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการแพ้ที่รุนแรงมากขึ้น แทนที่จะใช้เครื่องทำความชื้น ลองอาบน้ำร้อนและอบไอน้ำเพื่อช่วยเปิดทางเดินหายใจและลดความแห้งก่อนเข้านอนดู

5. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ 

หลังจากวันหยุดยาวที่ไปฉลองกับเพื่อนมา คุณอาจเคยชินกับการดื่มแอลกอฮอลล์ แต่ในเครื่องดื่มที่โปรดปรานนั้น (เบียร์ ไวน์และสุรา) มีสารฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ เช่น น้ำมูกไหล ปวดหัว และคันตา นั่นหมายความว่าแอลกอฮอล์สามารถทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลงได้ โดยอาการจะแย่เป็นพิเศษช่วงก่อนนอน นอกจากนี้ ไวน์และเบียร์ยังมีสารซัลไฟต์ด้วย ซึ่งเป็นสารที่รู้กันว่าทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง