โรค “กรดไหลย้อน” ผู้สูงอายุก็เป็นได้นะ
เมื่ออายุมากขึ้นมักจะมีโอกาสเกิดโรคต่างๆ มากขึ้นตามด้วย โดยเฉพาะโรคที่ไม่ควรมองข้ามอย่าง “กรดไหลย้อน” หากทิ้งไว้นานไม่รักษา อาจเสี่ยงไปถึงการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ และจากสถิติ มีผู้สูงวัยป่วยด้วยโรคนี้เพิ่มขึ้นทุกปี มาดูกันเลยว่ากรดไหลย้อนในผู้สูงอายุ จะมีสาเหตุ และวิธีป้องกันอย่างไร เพื่อให้ผู้สูงวัยใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ห่างไกลกรดไหลย้อน
สาเหตุของโรคกรดไหลย้อนในผู้สูงอายุ
1. อายุที่มากขึ้น
อายุมากขึ้น (อายุ 40 ปีขึ้นไป) ส่งผลให้อวัยวะทั้งภายนอก-ภายใน ก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพ และหูรูดกระเพาะอาหารในผู้สูงวัยจะหย่อนมากกว่าปกติ เมื่อหูรูดกระเพาะปิดไม่สนิท ก็จะมีอาการของโรคกรดไหลย้อนตามมานั่นเอง
1. อายุที่มากขึ้น
อายุมากขึ้น (อายุ 40 ปีขึ้นไป) ส่งผลให้อวัยวะทั้งภายนอก-ภายใน ก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพ และหูรูดกระเพาะอาหารในผู้สูงวัยจะหย่อนมากกว่าปกติ เมื่อหูรูดกระเพาะปิดไม่สนิท ก็จะมีอาการของโรคกรดไหลย้อนตามมานั่นเอง
2. ไม่ออกกำลังกาย และมีน้ำหนักเกิน
คนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือเกินมาตรฐาน จะทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น เลยส่งผลให้ความดันในกระเพาะอาหารสูงขึ้นด้วย
2. ไม่ออกกำลังกาย และมีน้ำหนักเกิน
คนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือเกินมาตรฐาน จะทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น เลยส่งผลให้ความดันในกระเพาะอาหารสูงขึ้นด้วย
2. ไม่ออกกำลังกาย และมีน้ำหนักเกิน
คนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือเกินมาตรฐาน จะทำให้ความดันในช่องท้องสูงขึ้น เลยส่งผลให้ความดันในกระเพาะอาหารสูงขึ้นด้วย
3. สูบบุหรี่มานาน
หากสูบมานาน มักจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะบุหรี่มีสารพิษ จึงเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร และอาจทำให้การบีบตัวของกระเพาะอาหารลดลง
3. สูบบุหรี่มานาน
หากสูบมานาน มักจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะบุหรี่มีสารพิษ จึงเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร และอาจทำให้การบีบตัวของกระเพาะอาหารลดลง
4. ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย
เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหารคลายตัว ส่งผลให้กรดที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหาร และกลายเป็นโรคกรดไหลย้อนได้
4. ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย
เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหารคลายตัว ส่งผลให้กรดที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหาร และกลายเป็นโรคกรดไหลย้อนได้
4. ดื่มแอลกอฮอล์บ่อย
เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดของกระเพาะอาหารคลายตัว ส่งผลให้กรดที่อยู่ภายในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหาร และกลายเป็นโรคกรดไหลย้อนได้
5. มีพฤติกรรมกินแล้วนอน
โดยการนอนหลังจากกินอาหารทันที ทำให้ร่างกายอยู่ในแนวราบ โอกาสจึงสูงที่กรดจะไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหาร
5. มีพฤติกรรมกินแล้วนอน
โดยการนอนหลังจากกินอาหารทันที ทำให้ร่างกายอยู่ในแนวราบ โอกาสจึงสูงที่กรดจะไหลย้อนกลับไปยังหลอดอาหาร
วิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เป็นกรดไหลย้อน
1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ควรออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง เพราะน้ำหนักตัวที่มากส่งผลให้เกิดความดันในช่องท้องได้ง่าย
1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ควรออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง เพราะน้ำหนักตัวที่มากส่งผลให้เกิดความดันในช่องท้องได้ง่าย
1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ควรออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง เพราะน้ำหนักตัวที่มากส่งผลให้เกิดความดันในช่องท้องได้ง่าย
2. ไม่นั่งเอนหลังหรือนอน
หลังรับประทานอาหารทันที ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เป็นเวลาที่น้ำย่อยกำลังย่อยอาหาร หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องก้มตัวหลังกินข้าว
2. ไม่นั่งเอนหลังหรือนอน
หลังรับประทานอาหารทันที ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เป็นเวลาที่น้ำย่อยกำลังย่อยอาหาร หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องก้มตัวหลังกินข้าว
3. ทานให้ตรงเวลา และลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ
ควรทานอาหารในแต่ละมื้อให้เป็นเวลา เพื่อลดการผลิตการสร้างน้ำย่อยมาย่อยอาหารในกระเพาะ ไม่ควรรับประทานอาหารปริมาณมากในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้ให้เกิดแรงดันที่หูรูดกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้กรดไหลย้อนกำเริบได้
3. ทานให้ตรงเวลา และลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ
ควรทานอาหารในแต่ละมื้อให้เป็นเวลา เพื่อลดการผลิตการสร้างน้ำย่อยมาย่อยอาหารในกระเพาะ ไม่ควรรับประทานอาหารปริมาณมากในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้ให้เกิดแรงดันที่หูรูดกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้กรดไหลย้อนกำเริบได้
3. ทานให้ตรงเวลา และลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อ
ควรทานอาหารในแต่ละมื้อให้เป็นเวลา เพื่อลดการผลิตการสร้างน้ำย่อยมาย่อยอาหารในกระเพาะ ไม่ควรรับประทานอาหารปริมาณมากในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้ให้เกิดแรงดันที่หูรูดกระเพาะอาหาร ซึ่งจะทำให้กรดไหลย้อนกำเริบได้
4. ลดความเครียด
หากเกิดความเครียด ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะมากกว่าปกติ ควรหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด
4. ลดความเครียด
หากเกิดความเครียด ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดกรดในกระเพาะมากกว่าปกติ ควรหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด
5. นอนหนุนหมอนสูง
เพื่อป้องกันการเกิดกรดไหลย้อน แนะนำว่าอย่าเพิ่งนอน แต่หากต้องนอนจริงๆ แนะนำเป็นหมอนกันกรดไหลย้อน ที่สามารถใช้นั่งหรือนอนก็ได้ ป้องกันกรดตีไหลย้อนกลับขึ้นมา
5. นอนหนุนหมอนสูง
เพื่อป้องกันการเกิดกรดไหลย้อน แนะนำว่าอย่าเพิ่งนอน แต่หากต้องนอนจริงๆ แนะนำเป็นหมอนกันกรดไหลย้อน ที่สามารถใช้นั่งหรือนอนก็ได้ ป้องกันกรดตีไหลย้อนกลับขึ้นมา
5. นอนหนุนหมอนสูง
เพื่อป้องกันการเกิดกรดไหลย้อน แนะนำว่าอย่าเพิ่งนอน แต่หากต้องนอนจริงๆ แนะนำเป็นหมอนกันกรดไหลย้อน ที่สามารถใช้นั่งหรือนอนก็ได้ ป้องกันกรดตีไหลย้อนกลับขึ้นมา
นอนยังไงไม่ให้กรดไหลย้อนกำเริบ
หมอนกันกรดไหลย้อน แบรนด์ Chowa หมอนเพื่อสุขภาพที่สามารถปรับองศาการเอนของหมอนได้ตามต้องการ รองรับสรีระร่างกาย พร้อมปลอกหมอน AirTec ที่จะทำให้คุณนอนแล้วเย็น ฟินๆ ไม่เป็นกรดไหลย้อนกำเริบแน่นอน
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอนกันกรดไหลย้อน
Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี
ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
คุณมีปัญหาเรื่องการนอนอยู่หรือเปล่า？นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa
Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการนอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมหมอนเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับหมอนกันกรดไหลย้อนของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้
หมอนกันกรดไหลย้อนเป็นหมอนที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ เซตหมอนทั้งหมด 4 ชิ้น พิเศษที่สามารถปรับระดับองศาเอนนอนได้ ปรับใช้งานได้ถึง 15 รูปแบบ ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนให้ดีขึ้น ทำให้การนั่งและการนอนถูกตามหลักสรีรศาสตร์
ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…
“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร
