ท่าขับรถแบบไหนใช่คุณ?
หลายคนชอบนั่งขับรถในท่าที่สบายๆ แต่บางคนอาจจะไม่เคยสังเกต ท่าทางที่เราเลือกนั่งทุกวันนั้น อาจทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่า 4 ท่านั่งที่หลายคนมักทำและคิดว่าโอเคจริงๆ แต่กลับอาจทำร้ายสุขภาพหลังได้ มีท่าไหนบ้าง
1. นั่งโน้มตัวไปใกล้พวงมาลัยเพื่อให้มองเห็นหน้ารถ
ใครที่ชอบโน้มตัวไปข้างหน้า นั่งหลังตรง ขางอและแขนงอจนข้อศอกเป็นตัววี บ่อยๆ ท่านั่งนี้อาจทำให้คุณรู้สึกเมื่อยล้าได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังทำให้เกิดอาการปวดไหล่ เมื่อยคอ ขาชา และปวดหลังส่วนล่าง
1. นั่งโน้มตัวไปใกล้พวงมาลัยเพื่อให้มองเห็นหน้ารถ
ใครที่ชอบโน้มตัวไปข้างหน้า นั่งหลังตรง ขางอและแขนงอจนข้อศอกเป็นตัววี บ่อยๆ ท่านั่งนี้อาจทำให้คุณรู้สึกเมื่อยล้าได้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นยังทำให้เกิดอาการปวดไหล่ เมื่อยคอ ขาชา และปวดหลังส่วนล่าง
2. เอนนอนขับแบบนักแข่ง
ท่านี้ชอบกันมากในหมู่คนที่รักการขับรถเร็ว ด้วยท่านั่งแขนเหยียดตรง ขาเหยียดและปรับเบาะเอนหลังเยอะ ทำให้เรามักรู้สึกเหมือนเป็นนักแข่ง แต่หากนั่งท่านี้เป็นเวลานานๆ จะทำให้หลังส่วนล่างโค้งไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้กระดูกสันหลังรับแรงกดทับมากขึ้น อาการที่เกิดขึ้น: ปวดหลังส่วนล่าง และปวดสีข้างลำตัว
2. เอนนอนขับแบบนักแข่ง
ท่านี้ชอบกันมากในหมู่คนที่รักการขับรถเร็ว ด้วยท่านั่งแขนเหยียดตรง ขาเหยียดและปรับเบาะเอนหลังเยอะ ทำให้เรามักรู้สึกเหมือนเป็นนักแข่ง แต่หากนั่งท่านี้เป็นเวลานานๆ จะทำให้หลังส่วนล่างโค้งไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้กระดูกสันหลังรับแรงกดทับมากขึ้น อาการที่เกิดขึ้น: ปวดหลังส่วนล่าง และปวดสีข้างลำตัว
3. ท่านั่งทำกิจกรรมขณะขับรถ
ท่านี้สำหรับคนที่ชอบทำหลายๆ อย่างพร้อมกันระหว่างขับรถ เช่น แต่งหน้า ทานขนม หรือคุยโทรศัพท์ ขณะที่นั่งหลังตรงและแขนงอ นอกจากจะเสี่ยงอันตรายจากการทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันแล้ว ยังทำให้หลังรับแรงกดทับจากท่าที่ผิด อาการที่เกิดขึ้น คือ ปวดศีรษะ เมื่อยล้าดวงตา เท้าชา และปวดก้นกบ
3. ท่านั่งทำกิจกรรมขณะขับรถ
ท่านี้สำหรับคนที่ชอบทำหลายๆ อย่างพร้อมกันระหว่างขับรถ เช่น แต่งหน้า ทานขนม หรือคุยโทรศัพท์ ขณะที่นั่งหลังตรงและแขนงอ นอกจากจะเสี่ยงอันตรายจากการทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันแล้ว ยังทำให้หลังรับแรงกดทับจากท่าที่ผิด อาการที่เกิดขึ้น คือ ปวดศีรษะ เมื่อยล้าดวงตา เท้าชา และปวดก้นกบ
4. นั่งแขนพาดกระจก ขับรถมือเดียว
ท่านี้สำหรับคนที่ชอบขับรถแบบชิลๆ ปรับเบาะเอนเล็กน้อย แขนข้างหนึ่งยื่นออกนอกกระจก หรือวางพาดกระจกข้าง การขับรถด้วยมือเดียวอาจทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อในแขนและไหล่ ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างด้วย อาการที่เกิดขึ้น: ปวดแขนและไหล่ รวมถึงอาการปวดหลังส่วนล่าง
4. นั่งแขนพาดกระจก ขับรถมือเดียว
ท่านี้สำหรับคนที่ชอบขับรถแบบชิลๆ ปรับเบาะเอนเล็กน้อย แขนข้างหนึ่งยื่นออกนอกกระจก หรือวางพาดกระจกข้าง การขับรถด้วยมือเดียวอาจทำให้เกิดการเกร็งกล้ามเนื้อในแขนและไหล่ ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างด้วย อาการที่เกิดขึ้น: ปวดแขนและไหล่ รวมถึงอาการปวดหลังส่วนล่าง
หากคุณนั่งท่าเหล่านี้อยู่ ลองปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อสุขภาพที่ดีระหว่างการขับรถ และป้องกันอาการปวดหลังที่จะตามมาในระยะยาว การนั่งขับรถที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้คุณขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพหลังของคุณให้ดีตลอดการเดินทางด้วย
ถ้าอยากนั่งพิงให้สบายคอมากขึ้น เราขอกระซิบบอกตัวช่วยเล็กๆ แต่ใช้แล้วฟินขึ้น 200% นั่นก็คือ หมอนรองคอรถยนต์ จาก Chowa ที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ รองรับต้นคอได้อย่างลงตัว ช่วยลดอาการเมื่อยล้า ขับนานแค่ไหนก็รู้สึกผ่อนคลาย!
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอนรองคอในรถ รุ่น Firm
Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี
ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
คุณมีปัญหาปวดหลังอยู่หรือเปล่า？นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa
Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมเบาะรองนั่งของเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับเบาะรองนั่งของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้
หมอนรองคอในรถ รุ่น Firm จะเติมเต็มความสบายในทุกการเดินทาง รองรับต้นคอ ป้องกันอาการปวดเมื่อยขณะขับรถ มีสายรัดปรับระดับได้ ใช้ได้กับเบาะรถทุกรุ่น ผลิตจากวัสดุไฮเปอร์เมมโมรี่โฟม 100% และยังปรับความนุ่มแน่นของหมอนได้
ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…
“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร
