โรคนอนไม่หลับเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน เราเชื่อว่าหลายคนคงจะต้องเจอกับปัญหาในการนอนไม่หลับ หรือหลับได้ยากกันอย่างแน่นอน เพราะเมื่อปิดไฟเตรียมนอนก็มักจะมีเรื่องให้คิดวนไปวนมา เผลอแปบเดียวก็ผ่านไปจนเกือบจะเช้า…
โรคนอนไม่หลับนี้ หากปล่อยไว้นานจะยิ่งรักษายากและส่งผลเดียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แล้วเราควรจะจัดการปัญหานี้อย่างไรดีล่ะ? วันนี้เราจึงมี 5 เคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับมาบอกกัน ซึ่งทุกวิธีนั้นทำได้ง่ายมากเลยทีเดียว
ในการนอนของแต่ละคนมักจะมีท่านอนที่ถนัดแตกต่างกันไป บางคนชอบนอนหงาย บางคนชอบนอนตะแคงซ้าย ตะแคงขวา และอาจจะมีบางคนที่ชอบนอนคว่ำ ที่นอนธรรมดาทั่วไปหลายครั้งก็รองรับสรีระได้ไม่ดี เช่นคนที่ชอบนอนตะแคงเมื่อใช้ที่นอนแข็งเกินไปก็ทำให้ปวดร้าวข้างลำตัวในด้านที่ตะแคง ส่วนคนที่ชอบนอนหงาย หากที่นอนนุ่มเกินไป เกิดการยุบตัวลงก็ทำให้ไม่รองรับกระดูกสันหลัง ระยะยาวจึงปวดหลังเรื้อรังได้
ดังนั้นหากจะใช้ท็อปเปอร์แล้ว มีปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกท็อปเปอร์อยู่ 5 ข้อดังนี้
1. เทคนิคการหลับง่ายแบบวิธีทหาร
เริ่มต้นด้วยการพยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้าและภายในปากรวมถึงลิ้น จากนั้นปล่อยไหล่ให้สบายๆ คลายความตึงเครียด ค่อยๆ คลายมือไว้ข้างลำตัว จากนั้นผ่อนคลายกล้ามเนื้อขา ต้นขา และน่อง หายใจเข้าออกช้าๆ ให้สมองปลอดโปร่ง แล้วจินตนาการถึงสถานที่ที่ผ่อนคลาย เช่น ทะเล ภูเขา และไม่ต้องคิดอะไรนอกจากภาพนั้น วิธีนี้จะทำให้คุณหลับได้ในภายใน 10 วินาที!
1. เทคนิคการหลับง่ายแบบวิธีทหาร
เริ่มต้นด้วยการพยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อบนใบหน้าและภายในปากรวมถึงลิ้น จากนั้นปล่อยไหล่ให้สบายๆ คลายความตึงเครียด ค่อยๆ คลายมือไว้ข้างลำตัว จากนั้นผ่อนคลายกล้ามเนื้อขา ต้นขา และน่อง หายใจเข้าออกช้าๆ ให้สมองปลอดโปร่ง แล้วจินตนาการถึงสถานที่ที่ผ่อนคลาย เช่น ทะเล ภูเขา และไม่ต้องคิดอะไรนอกจากภาพนั้น วิธีนี้จะทำให้คุณหลับได้ในภายใน 10 วินาที!
2. หายใจแบบ 4-7-8
สำหรับวิธีนี้จะเป็นการฝึกการหายใจ โดยจะเรียกว่า 4-7-8 ซึ่งการหายใจเข้าและออกอย่างช้าๆ ด้วยการนับแบบนี้จะสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สมองโล่งและปลอดโปร่งมากขึ้น โดยวิธีการหายใจแบบนี้ทำได้ด้วยการเริ่มจากปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆ จนหมด และหายใจเข้านับ 1-4 กลั้นหายใจไว้นับ 1-7 และค่อยปล่อยลมหายใจออกทางปากช้าๆ นับ 1-8 ทำไปสักพักก็จะค่อยๆ รู้สึกสบายและหลับได้แบบไม่ทันรู้ตัวเลยทีเดียว
2. หายใจแบบ 4-7-8
สำหรับวิธีนี้จะเป็นการฝึกการหายใจ โดยจะเรียกว่า 4-7-8 ซึ่งการหายใจเข้าและออกอย่างช้าๆ ด้วยการนับแบบนี้จะสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สมองโล่งและปลอดโปร่งมากขึ้น โดยวิธีการหายใจแบบนี้ทำได้ด้วยการเริ่มจากปล่อยลมหายใจออกอย่างช้าๆ จนหมด และหายใจเข้านับ 1-4 กลั้นหายใจไว้นับ 1-7 และค่อยปล่อยลมหายใจออกทางปากช้าๆ นับ 1-8 ทำไปสักพักก็จะค่อยๆ รู้สึกสบายและหลับได้แบบไม่ทันรู้ตัวเลยทีเดียว
2. ช่วยลดอาการปวดหลังได้
เมื่อใช้ท็อปเปอร์คุณภาพดี สิ่งที่จะได้รับนอกเหนือไปจากความสบายก็คือ ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดหลังได้ เนื่องจากท็อปเปอร์ที่ดีจะช่วยรองรับกระดูกสันหลังให้เป็นเส้นตรง รองรับการจมของหัวไหล่และสะโพก ช่วยป้องกันอาการเหน็บชาและอาการปวดหลังได้ในระยะยาว
3. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด
ไม่เพียงแค่ไฟในห้องเท่านั้นที่จะต้องปิด แต่อุปกรณ์สื่อสารทุกชิ้นในห้องนอนก็ต้องปิดด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเล็ต ที่สำคัญก็คือการไม่ดูโทรทัศน์ก่อนนอน ซึ่งถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สิ่งที่ควรดูก็คือสารคดีท่องเที่ยว หรือหนังที่มีเนื้อหาตลก เบาสมอง
3. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสารทั้งหมด
ไม่เพียงแค่ไฟในห้องเท่านั้นที่จะต้องปิด แต่อุปกรณ์สื่อสารทุกชิ้นในห้องนอนก็ต้องปิดด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเล็ต ที่สำคัญก็คือการไม่ดูโทรทัศน์ก่อนนอน ซึ่งถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ สิ่งที่ควรดูก็คือสารคดีท่องเที่ยว หรือหนังที่มีเนื้อหาตลก เบาสมอง
4. อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
มีผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า การอาบน้ำอุ่นนั้นจะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจได้ดีกว่า ซึ่งถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำก็สามารถแช่น้ำอุ่นสัก 15 นาทีก่อนนอนได้เหมือนกัน เพราะในขณะที่ร่างกายได้สัมผัสความอบอุ่น กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายจะผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดได้มากขึ้น และก็จะช่วยให้เข้านอนด้วยความรู้สึกผ่อนคลายนั่นเอง
4. อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
มีผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า การอาบน้ำอุ่นนั้นจะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจได้ดีกว่า ซึ่งถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำก็สามารถแช่น้ำอุ่นสัก 15 นาทีก่อนนอนได้เหมือนกัน เพราะในขณะที่ร่างกายได้สัมผัสความอบอุ่น กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายจะผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดได้มากขึ้น และก็จะช่วยให้เข้านอนด้วยความรู้สึกผ่อนคลายนั่นเอง
4. อาบน้ำอุ่นก่อนนอน
มีผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า การอาบน้ำอุ่นนั้นจะช่วยสร้างความผ่อนคลายให้กับร่างกายและจิตใจได้ดีกว่า ซึ่งถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำก็สามารถแช่น้ำอุ่นสัก 15 นาทีก่อนนอนได้เหมือนกัน เพราะในขณะที่ร่างกายได้สัมผัสความอบอุ่น กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายจะผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดได้มากขึ้น และก็จะช่วยให้เข้านอนด้วยความรู้สึกผ่อนคลายนั่นเอง
5. ฝึกโยคะก่อนนอน
จริงอยู่ที่การเล่นโยคะอาจจะทำให้เสียเหงื่อหรือเสียพลังงานได้มาก แต่สำหรับช่วงเวลาก่อนนอน การเล่นโยคะก็ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ โดยเลือกเล่นเฉพาะท่าโยคะที่ง่าย และไม่ต้องใช้พลังงานมากจนเกินไป โดยหลังจากที่ร่างกายได้เหยียดยืดกล้ามเนื้อแล้ว จะค่อยๆ เพิ่มอารมณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ความเครียดและการเกร็งของกล้ามเนื้อจากความเครียดก็จะลดลง คราวนี้ก็นอนหลับได้สบายแล้ว
5. ฝึกโยคะก่อนนอน
จริงอยู่ที่การเล่นโยคะอาจจะทำให้เสียเหงื่อหรือเสียพลังงานได้มาก แต่สำหรับช่วงเวลาก่อนนอน การเล่นโยคะก็ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ โดยเลือกเล่นเฉพาะท่าโยคะที่ง่าย และไม่ต้องใช้พลังงานมากจนเกินไป โดยหลังจากที่ร่างกายได้เหยียดยืดกล้ามเนื้อแล้ว จะค่อยๆ เพิ่มอารมณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ความเครียดและการเกร็งของกล้ามเนื้อจากความเครียดก็จะลดลง คราวนี้ก็นอนหลับได้สบายแล้ว
5. ฝึกโยคะก่อนนอน
จริงอยู่ที่การเล่นโยคะอาจจะทำให้เสียเหงื่อหรือเสียพลังงานได้มาก แต่สำหรับช่วงเวลาก่อนนอน การเล่นโยคะก็ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ โดยเลือกเล่นเฉพาะท่าโยคะที่ง่าย และไม่ต้องใช้พลังงานมากจนเกินไป โดยหลังจากที่ร่างกายได้เหยียดยืดกล้ามเนื้อแล้ว จะค่อยๆ เพิ่มอารมณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้น ความเครียดและการเกร็งของกล้ามเนื้อจากความเครียดก็จะลดลง คราวนี้ก็นอนหลับได้สบายแล้ว
นอกจาก 5 วิธีที่เราแนะนำไป อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยสร้างความสบายและผ่อนคลายให้กับการนอนหลับก็คือ การเสริมที่นอนด้วยท็อปเปอร์ เราขอแนะนำท็อปเปอร์คุณภาพพรีเมี่ยมจากแบรนด์ Chowa ท็อปเปอร์ Prime ซึ่งเป็นท็อปเปอร์รุ่นอัพเกรด ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระในทุกท่าทางการนอน ด้านในผลิตจากเส้นใยพิเศษ “Hyper Memory Foam” ช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อการนอนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายอย่างแท้จริง
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับท็อปเปอร์ Prime
Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมี่ยมจากประเทศเกาหลี
ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
คุณมีปัญหาปวดหลังอยู่หรือเปล่า？นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa
Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมท็อปเปอร์ของเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับท็อปเปอร์ของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้
ท็อปเปอร์ Prime ช่วยยกระดับการพักผ่อนของคุณให้มีคุณภาพมากขึ้น สัมผัสนวัตกรรมการนอนสุดล้ำที่ไม่เหมือนใคร ด้วยท็อปเปอร์เส้นใยพิเศษ “Hyper Memory Foam” ช่วยรองรับและกระจายน้ำหนักตั้งแต่หัวจรดเท้า เพื่อการนอนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายอย่างแท้จริง
ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…
“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร
