ในทุกเช้าผู้คนมักจะรีบทานอาหารให้เสร็จทันเวลาก่อนไปเรียนหรือไปทำงาน ชีวิตเร่งรีบไปหมดจนละเลยและไม่ได้ใส่ใจในสุขภาพของตนเอง เราจึงอยากแนะนำให้ทุกคนเคี้ยวอาหารช้าลงสักนิด เคี้ยวให้ละเอียดและนานขึ้น เพราะมันจะส่งผลดีต่อสุขภาพและระบบภายในของร่างกายของเรา
การบดเคี้ยวอาหารในช่องปาก (Mastication) คือ การบดเคี้ยวให้อาหารมีขนาดเล็กลง มีพื้นที่ผิวสัมผัสเอนไซม์น้ำลายได้มากขึ้น ทำให้กลืนง่ายขึ้นและระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่ายกว่าเดิม เมื่อเรากำลังเคี้ยวอาหารอยู่ สักพักกลไกการเคี้ยวอาหาร จะไปกระตุ้นต่อมน้ำลายออกมา และน้ำลายจะไปคลุกเคล้ากับอนุภาคอาหาร แตกออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ ที่สามารถกลืนเข้าสู่หลอดอาหารโดยไม่เกิดการติดคอ
การบดเคี้ยวอาหารในช่องปาก (Mastication) คือ การบดเคี้ยวให้อาหารมีขนาดเล็กลง มีพื้นที่ผิวสัมผัสเอนไซม์น้ำลายได้มากขึ้น ทำให้กลืนง่ายขึ้นและระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่ายกว่าเดิม เมื่อเรากำลังเคี้ยวอาหารอยู่ สักพักกลไกการเคี้ยวอาหาร จะไปกระตุ้นต่อมน้ำลายออกมา และน้ำลายจะไปคลุกเคล้ากับอนุภาคอาหาร แตกออกมาเป็นชิ้นเล็กๆ ที่สามารถกลืนเข้าสู่หลอดอาหารโดยไม่เกิดการติดคอ
อาจารย์แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลว่า การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนนั้นสำคัญมาก ทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป ช่วยให้สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี
อาจารย์แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลว่า การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนนั้นสำคัญมาก ทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป ช่วยให้สารอาหารถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในส่วนต่างๆ ได้ง่ายขึ้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการมีสุขภาพที่ดี
เพราะถ้าเราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดพอ กระเพาะของเราจะต้องรับภาระในการย่อยอาหารมากขึ้น ยิ่งถ้าเรากินอาหารที่ย่อยยากๆ เช่นเนื้อสัตว์ กระเพาะจะต้องมีการหลั่งกรด และมีการบีบตัวมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือท้องเฟ้อขึ้นมาได้นั่นเอง
เพราะถ้าเราเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดพอ กระเพาะของเราจะต้องรับภาระในการย่อยอาหารมากขึ้น ยิ่งถ้าเรากินอาหารที่ย่อยยากๆ เช่นเนื้อสัตว์ กระเพาะจะต้องมีการหลั่งกรด และมีการบีบตัวมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือท้องเฟ้อขึ้นมาได้นั่นเอง
สำหรับผู้มีอาการกรดไหลย้อน ต้องรู้เอาไว้เลยว่า การรีบกินหรือกลืนโดยเคี้ยวไม่ละเอียด นั้น จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก เพื่อกระตุ้นน้ำย่อยออกมาช่วยย่อยอาหาร จึงไปกระตุ้นให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเป็นที่มาของโรคกรดไหลย้อนนั่นเอง
สำหรับผู้มีอาการกรดไหลย้อน ต้องรู้เอาไว้เลยว่า การรีบกินหรือกลืนโดยเคี้ยวไม่ละเอียด นั้น จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก เพื่อกระตุ้นน้ำย่อยออกมาช่วยย่อยอาหาร จึงไปกระตุ้นให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และเป็นที่มาของโรคกรดไหลย้อนนั่นเอง
เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยกรดไหลย้อนจึงควรหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เช่นเคี้ยวอาหารให้ละเอียด นานขึ้น เลี่ยงอาหารมื้อหนัก และควรเว้นระยะอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร ก่อนที่จะเข้านอน เพื่อให้อาหารได้เคลื่อนตัวจากกระเพาะไปสู่ลำไส้เพื่อดูดซึมเสียก่อนเข้านอนนั่นเอง
เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยกรดไหลย้อนจึงควรหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เช่นเคี้ยวอาหารให้ละเอียด นานขึ้น เลี่ยงอาหารมื้อหนัก และควรเว้นระยะอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร ก่อนที่จะเข้านอน เพื่อให้อาหารได้เคลื่อนตัวจากกระเพาะไปสู่ลำไส้เพื่อดูดซึมเสียก่อนเข้านอนนั่นเอง
หากผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ลองปรับเปลี่ยนการเคี้ยวอาหาร การเลือกกินเมนูอาหารให้ดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น เรามีตัวช่วยมาแนะนำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเมื่อยามพักผ่อนอยู่บ้าน คือ หมอนกันกรดไหลย้อน ที่จะให้คุณไม่ต้องกังวลกับการใช้ชีวิตประจำวันอีกต่อไป
คลิกปุ่มด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอนกันกรดไหลย้อน
Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี
ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น
Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการนอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมหมอนเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับหมอนกันกรดไหลย้อนของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้
หมอนกันกรดไหลย้อนเป็นหมอนที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ เซตหมอนทั้งหมด 4 ชิ้น พิเศษที่สามารถปรับระดับองศาเอนนอนได้ ปรับใช้งานได้ถึง 15 รูปแบบ ช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนให้ดีขึ้น ทำให้การนั่งและการนอนถูกตามหลักสรีรศาสตร์
“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร