• หน้าแรก
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้า Set
  • บทความ
  • เกี่ยวกับเรา
  • ดูรีวิว
ดูรายละเอียดสินค้า
0
  • หน้าแรก
  • สินค้าทั้งหมด
  • สินค้า Set
  • บทความ
  • ดูรีวิว
  • เกี่ยวกับเรา
ดูรายละเอียดสินค้า
ดูรายละเอียดสินค้า
  • 0

คาเฟอีนส่งผลต่อการนอนอย่างไร


ใครๆ ก็ดื่มกาแฟกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะชอบรสชาติของกาแฟหรือดื่มเพื่อให้ไม่ง่วง นอกจากนี้ดูจากสถิติร้านคาเฟ่ที่เปิดใหม่มากมาย แสดงให้เห็นว่าคนดื่มกาแฟมากขึ้นหรือไม่ก็ดื่มชาซึ่งมีส่วนผสมของคาเฟอีน เราต่างมองหากาแฟซักแก้วเมื่อง่วงหรือรู้สึกว่าพลังงานเหลือน้อย

ในกาแฟที่คุณชื่นชอบมีส่วนที่ช่วยกระตุ้นการผลิตของสารนอร์เอพิเนฟริน (noradrenaline) และสารอพิเนฟริน (epinephrine) ซึ่งทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะตื่นตัวเต็มที่ อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ฉะนั้นหากคุณดื่มกาแฟวันละแก้วก็เป็นเรื่องปกติ แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มติดกาแฟ เนื่องจากการติดกาแฟส่งผลต่อวงจรการนอนหลับของคุณและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนอนไม่หลับได้

ในกาแฟที่คุณชื่นชอบมีส่วนที่ช่วยกระตุ้นการผลิตของสารนอร์เอพิเนฟริน (noradrenaline) และสารอพิเนฟริน (epinephrine) ซึ่งทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะตื่นตัวเต็มที่ อัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ฉะนั้นหากคุณดื่มกาแฟวันละแก้วก็เป็นเรื่องปกติ แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มติดกาแฟ เนื่องจากการติดกาแฟส่งผลต่อวงจรการนอนหลับของคุณและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนอนไม่หลับได้

ดื่มคาเฟอีนขนาดไหนถึงจะเรียกว่ามากเกินไป

สำหรับผู้ใหญ่

สำหรับคนทั่วไป กาแฟ 1-2 แก้วคงไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือการนอนหลับเท่าไหร่ ถ้าดื่มในเวลาที่ไม่ใกล้กับเวลานอนมากเกินไป ในกรณีของกาแฟ 3-4 แก้ว ที่มีปริมาณ 200-300 มิลลิกรัม ก็ยังโอเคอยู่ เว้นแต่บางคนที่อาจใจสั่นหรือความดันผิดปกติได้เมื่อดื่มกาแฟ 3-4 แก้ว ถ้าคุณมีอาการดังกล่าว ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวัน และควรดื่มน้ำให้มากเพื่อลดความเข้มข้นของคาเฟอีนในร่างกาย

ดื่มคาเฟอีนขนาดไหนถึงจะเรียกว่ามากเกินไป

สำหรับผู้ใหญ่

สำหรับคนทั่วไป กาแฟ 1-2 แก้วคงไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือการนอนหลับเท่าไหร่ ถ้าดื่มในเวลาที่ไม่ใกล้กับเวลานอนมากเกินไป ในกรณีของกาแฟ 3-4 แก้ว ที่มีปริมาณ 200-300 มิลลิกรัม ก็ยังโอเคอยู่ เว้นแต่บางคนที่อาจใจสั่นหรือความดันผิดปกติได้เมื่อดื่มกาแฟ 3-4 แก้ว ถ้าคุณมีอาการดังกล่าว ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวัน และควรดื่มน้ำให้มากเพื่อลดความเข้มข้นของคาเฟอีนในร่างกาย

ดื่มคาเฟอีนขนาดไหนถึงจะเรียกว่ามากเกินไป

สำหรับผู้ใหญ่

สำหรับคนทั่วไป กาแฟ 1-2 แก้วคงไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือการนอนหลับเท่าไหร่ ถ้าดื่มในเวลาที่ไม่ใกล้กับเวลานอนมากเกินไป ในกรณีของกาแฟ 3-4 แก้ว ที่มีปริมาณ 200-300 มิลลิกรัม ก็ยังโอเคอยู่ เว้นแต่บางคนที่อาจใจสั่นหรือความดันผิดปกติได้เมื่อดื่มกาแฟ 3-4 แก้ว ถ้าคุณมีอาการดังกล่าว ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟหลายแก้วต่อวัน และควรดื่มน้ำให้มากเพื่อลดความเข้มข้นของคาเฟอีนในร่างกาย

สำหรับสตรีมีครรภ์

จากข้อมูลขององค์กรการตั้งครรภ์ของอเมริกัน สตรีมีครรภ์ควรจำกัดการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังให้มากที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่ม ไม่เกิน 150-300 มิลลิกรัมต่อวัน

สำหรับสตรีมีครรภ์

จากข้อมูลขององค์กรการตั้งครรภ์ของอเมริกัน สตรีมีครรภ์ควรจำกัดการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังให้มากที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่ม ไม่เกิน 150-300 มิลลิกรัมต่อวัน

สำหรับสตรีมีครรภ์

จากข้อมูลขององค์กรการตั้งครรภ์ของอเมริกัน สตรีมีครรภ์ควรจำกัดการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังให้มากที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่ม ไม่เกิน 150-300 มิลลิกรัมต่อวัน

สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ เป็นเบาหวาน หรือมีความดันเลือดสูง

งานวิจัยชี้ว่าปริมาณที่ดื่มคาเฟอีนและช่วงเวลาในการนอนนั้นมีความสัมพันธ์กันแบบผกผัน หมายความว่า การดื่มกาแฟในปริมาณมากส่งผลโดยตรงต่อการนอนที่น้อยลงและการตื่นบ่อยขึ้น เนื่องด้วยสาเหตุนี้เอง คุณจึงควรลดปริมาณแก้วลงมา 1-2 แก้ว ผู้ที่เป็นเบาหวานก็ควรระวังเช่นเดียวกัน เนื่องจากกาแฟทำให้ความไวของอินซูลินต่ำลงส่งผลให้ระดับกลูโคสเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ เป็นเบาหวาน หรือมีความดันเลือดสูง

งานวิจัยชี้ว่าปริมาณที่ดื่มคาเฟอีนและช่วงเวลาในการนอนนั้นมีความสัมพันธ์กันแบบผกผัน หมายความว่า การดื่มกาแฟในปริมาณมากส่งผลโดยตรงต่อการนอนที่น้อยลงและการตื่นบ่อยขึ้น เนื่องด้วยสาเหตุนี้เอง คุณจึงควรลดปริมาณแก้วลงมา 1-2 แก้ว ผู้ที่เป็นเบาหวานก็ควรระวังเช่นเดียวกัน เนื่องจากกาแฟทำให้ความไวของอินซูลินต่ำลงส่งผลให้ระดับกลูโคสเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ เป็นเบาหวาน หรือมีความดันเลือดสูง

งานวิจัยชี้ว่าปริมาณที่ดื่มคาเฟอีนและช่วงเวลาในการนอนนั้นมีความสัมพันธ์กันแบบผกผัน หมายความว่า การดื่มกาแฟในปริมาณมากส่งผลโดยตรงต่อการนอนที่น้อยลงและการตื่นบ่อยขึ้น เนื่องด้วยสาเหตุนี้เอง คุณจึงควรลดปริมาณแก้วลงมา 1-2 แก้ว ผู้ที่เป็นเบาหวานก็ควรระวังเช่นเดียวกัน เนื่องจากกาแฟทำให้ความไวของอินซูลินต่ำลงส่งผลให้ระดับกลูโคสเพิ่มสูงขึ้น

เมื่อคุณทราบแล้วว่ากาแฟส่งผลกระทบต่อการนอนอย่างไร คุณควรนำเทคนิคเหล่านี้มาปรับใช้ในการดื่มกาแฟเพื่อให้คุณมีพลังงานเต็มที่และมีอารมณ์ที่ดีขึ้น


เคล็ดลับการดื่มคาเฟอีนและการนอนหลับที่คุณสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่

1. ดื่มในเวลาที่เหมาะสม

ไม่ควรดื่มทันทีหลังตื่นนอน เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีระดับสารคอร์ติซอลสูงอยู่ คุณควรตื่นเช้ามาตามธรรมชาติและออกไปรับแสงแดดประมาณ 20 นาทีก่อนดื่มกาแฟแก้วแรกของวัน อย่าลืมดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วเพื่อให้ร่างกายตื่นก่อนดื่มกาแฟ ทั้งนี้ ควรพิจารณานาฬิกาชีวิตของคุณควบคู่กับการเลือกเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟด้วย

1. ดื่มในเวลาที่เหมาะสม

ไม่ควรดื่มทันทีหลังตื่นนอน เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีระดับสารคอร์ติซอลสูงอยู่ คุณควรตื่นเช้ามาตามธรรมชาติและออกไปรับแสงแดดประมาณ 20 นาทีก่อนดื่มกาแฟแก้วแรกของวัน อย่าลืมดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วเพื่อให้ร่างกายตื่นก่อนดื่มกาแฟ ทั้งนี้ ควรพิจารณานาฬิกาชีวิตของคุณควบคู่กับการเลือกเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟด้วย

1. ดื่มในเวลาที่เหมาะสม

ไม่ควรดื่มทันทีหลังตื่นนอน เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีระดับสารคอร์ติซอลสูงอยู่ คุณควรตื่นเช้ามาตามธรรมชาติและออกไปรับแสงแดดประมาณ 20 นาทีก่อนดื่มกาแฟแก้วแรกของวัน อย่าลืมดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วเพื่อให้ร่างกายตื่นก่อนดื่มกาแฟ ทั้งนี้ ควรพิจารณานาฬิกาชีวิตของคุณควบคู่กับการเลือกเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟด้วย

2. ดื่มลาเต้แก้วนึงก่อนงีบหลับ

คุณอาจจะเคยลองดื่มกาแฟลาเต้แล้ว แต่คุณยังไม่เคยลอง “Nap Latte” เป็นเทคนิคที่ให้ดื่มลาเต้ก่อน 1 แก้วแล้วค่อยงีบหลับ งีบสั้นๆ สัก 10-20 นาที แล้วคุณจะตื่นมาสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เพราะเป็นเวลาที่คาเฟอีนทำงานได้เต็มที่พอดี (คาเฟอีนใช้เวลาเข้าสู่ร่างกายประมาณ 10-20 นาที)

2. ดื่มลาเต้แก้วนึงก่อนงีบหลับ

คุณอาจจะเคยลองดื่มกาแฟลาเต้แล้ว แต่คุณยังไม่เคยลอง “Nap Latte” เป็นเทคนิคที่ให้ดื่มลาเต้ก่อน 1 แก้วแล้วค่อยงีบหลับ งีบสั้นๆ สัก 10-20 นาที แล้วคุณจะตื่นมาสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เพราะเป็นเวลาที่คาเฟอีนทำงานได้เต็มที่พอดี (คาเฟอีนใช้เวลาเข้าสู่ร่างกายประมาณ 10-20 นาที)

2. ดื่มลาเต้แก้วนึงก่อนงีบหลับ

คุณอาจจะเคยลองดื่มกาแฟลาเต้แล้ว แต่คุณยังไม่เคยลอง “Nap Latte” เป็นเทคนิคที่ให้ดื่มลาเต้ก่อน 1 แก้วแล้วค่อยงีบหลับ งีบสั้นๆ สัก 10-20 นาที แล้วคุณจะตื่นมาสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เพราะเป็นเวลาที่คาเฟอีนทำงานได้เต็มที่พอดี (คาเฟอีนใช้เวลาเข้าสู่ร่างกายประมาณ 10-20 นาที)

3. ลองเปลี่ยนชนิดกาแฟ

กาแฟแต่ละชนิดมีระดับคาเฟอีนที่ไม่เท่ากัน หากคุณต้องการลดการบริโภคกาแฟ ให้ลองปรับเปลี่ยนเมนูกาแฟของคุณ โดยกาแฟคั่วแบบคั่วอ่อนจะมีคาเฟอีนในระดับที่สูงกว่ากาแฟคั่วเข้ม และกาแฟคั่วเข้มมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟคั่วทั่วไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์

3. ลองเปลี่ยนชนิดกาแฟ

กาแฟแต่ละชนิดมีระดับคาเฟอีนที่ไม่เท่ากัน หากคุณต้องการลดการบริโภคกาแฟ ให้ลองปรับเปลี่ยนเมนูกาแฟของคุณ โดยกาแฟคั่วแบบคั่วอ่อนจะมีคาเฟอีนในระดับที่สูงกว่ากาแฟคั่วเข้ม และกาแฟคั่วเข้มมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟคั่วทั่วไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์

นี่คือตารางที่แสดงระดับคาเฟอีนในเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณ โดย Eleven Coffees

4. ตื่นเช้ามาสดชื่น ปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะสม

ปรับอุณหภูมิในห้องนอนของคุณให้เหมาะสมจะได้ตื่นมาโดยไม่มีเหงื่อออกและรู้สึกสดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่

4. ตื่นเช้ามาสดชื่น ปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะสม

ปรับอุณหภูมิในห้องนอนของคุณให้เหมาะสมจะได้ตื่นมาโดยไม่มีเหงื่อออกและรู้สึกสดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่

4. ตื่นเช้ามาสดชื่น ปรับอุณหภูมิห้องนอนให้เหมาะสม

ปรับอุณหภูมิในห้องนอนของคุณให้เหมาะสมจะได้ตื่นมาโดยไม่มีเหงื่อออกและรู้สึกสดชื่นพร้อมเริ่มต้นวันใหม่

5. เดินเล่นตอนเช้า

ก่อนที่คุณจะหยิบแก้วกาแฟมาดื่มตอนเช้า คุณควรออกไปเดินเล่นหรือวิ่งนอกบ้าน การที่คุณได้รับแสงแดดธรรมชาติในตอนเช้าเพียง 15 นาทีจะช่วยให้คุณมีวงจรการนอนที่ดีขึ้นและได้รับวิตามินดีซึ่งสำคัญต่อการนอนหลับ

5. เดินเล่นตอนเช้า

ก่อนที่คุณจะหยิบแก้วกาแฟมาดื่มตอนเช้า คุณควรออกไปเดินเล่นหรือวิ่งนอกบ้าน การที่คุณได้รับแสงแดดธรรมชาติในตอนเช้าเพียง 15 นาทีจะช่วยให้คุณมีวงจรการนอนที่ดีขึ้นและได้รับวิตามินดีซึ่งสำคัญต่อการนอนหลับ

รู้อย่างนี้แล้ว ต่อไปคุณก็จะสามารถดื่มกาแฟได้โดยไม่มีปัญหาต่อการนอนหลับของคุณ ถ้าคุณลองทำตาม 5 เคล็ดลับนี้แล้ว แต่ยังมีปัญหานอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิทอยู่ อาจจะมีสาเหตุมาจากอย่างอื่นนอกเหนือไปจากคาเฟอีน เราแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนมาใช้หมอนที่ตอบโจทย์สรีระต้นคอและศีรษะของคุณ นั่นก็คือ “หมอนโคซี่” จากแบรนด์ Chowa

ดูรายละเอียดหมอนโคซี่

Chowa 초와 สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพการนอนระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลี

ที่จะยกระดับการนอนและการพักผ่อนของคุณให้ดียิ่งขึ้น

คุณมีปัญหาเรื่องการนอนอยู่หรือเปล่า?นั่นก็เพราะว่าคุณยังไม่เคยใช้สินค้าของ Chowa


Chowa โชวาอยากเห็นคนไทยได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เหมือนคนเกาหลี เพราะเราเชื่อว่าการนอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โชวาจึงเริ่มจากวิจัยการใช้ชีวิตของคนเกาหลี และนำเอานวัตกรรมหมอนเกาหลีมาประยุกต์ใช้กับหมอนโคซี่ของเรา เราฝันอยากจะให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเหมือนที่คนเกาหลีใช้


หมอนโคซี่ใบนี้เป็นหมอนที่สร้างมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ พิเศษที่สามารถปรับความสูงต่ำของหมอนได้ตามต้องการ วัสดุด้านในประกอบไปด้วยไฮเปอร์เมมโมรี่โฟมและไมโครไฟเบอร์ ช่วยรองรับต้นคอและศีรษะอย่างพอดี ให้สัมผัสเหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆที่นุ่มฟู

Chowa โชวา 

"เราเชื่อว่าการพักผ่อนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด"

저희는 휴식이 가장 중요하다고 믿습니다

ดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด

หมอนโคซี่

코지 베개

4.9
ช้อปสินค้า

หมอนพิงหลัง

기절 등베개

4.9
ช้อปสินค้า

หมอนบอดี้

바디 베개

4.9
ช้อปสินค้า

ลูกค้าที่เคยใช้งานพูดถึงสินค้า Chowa ว่า…

“เป็นสินค้าพรีเมี่ยมที่ใช้ดีทุกชิ้นเลยจริงๆ การนอนดีขึ้นมากตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้หมอนโชวา ซื้อไปฝากญาติพี่น้องทุกคนในครอบครัว ก็ติดใจกันหมด ใครที่ยังไม่เคยใช้บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ” — คุณ ภัทรพร


ลองสินค้าสลบเหมือดสุดพรีเมี่ยมของโชวาเลย! รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน


ดูรายละเอียดสินค้าทั้งหมด